กลับมากันอีกแล้วกับการยื่นภาษีประจำปี ที่มาพร้อมกับการลดหย่อนภาษี ซึ่งในปี ๆ หนึ่งทางกรมสรรพากรจะมีวิธีช่วยลดหย่อนภาษีให้กับผู้มีเงินได้ทุกคน โดยการบริจาคก็เป็นสิทธิอีกหนึ่งสิทธิที่ไม่ใช่แค่ช่วยผู้มีเงินได้ลดหย่อนภาษีเท่านั้น แต่ยังช่วยสนับสนุนให้มูลนิธิต่าง ๆ มีรายได้ไปช่วยเหลือผู้คนอื่น ๆ ที่เดือดร้อนเพิ่มมากขึ้น การให้เพียงเล็กน้อยของเรา อาจเปลี่ยนโลกและทำให้คนอื่น ได้รับสิ่งที่ดีได้ไม่มากก็น้อย

 

13 มูลนิธิ ช่วยลดหย่อนได้มากถึง 2 เท่า

หน่วยรับบริจาคเดิม 10 แห่ง

1) สภากาชาดไทย

          นอกจากบริจาคโดยตรงผ่านทางสภากาชาดไทย ผู้มีเงินได้สามารถบริจาคผ่านงานกาชาดออนไลน์ที่จะจัดขึ้น 8-18 ธันวาคม 2566 ได้ด้วย โดยผู้บริจาคสามารถเลือกบริจาคตามภารกิจของสภากาชาดไทยได้ ทั้งบริจาคเพื่อสนับสนุนบริการทางการแพทย์ บริจาคเพื่อสนับสนุนการบริจาคโลหิต บริจาคเพื่อสนับสนุนงานบรรเทาทุกข์และช่วยเหลือผู้ประสบภัย และบริจาคเพื่อสนับสนุนงานส่งเสริมคุณภาพชีวิต

สามารถบริจาคได้ 24 ชั่วโมง ผ่านเว็บไซต์ : https://www.redcross365.com/activity/donation

 

2) มูลนิธิภัทรมหาราชานุสรณ์ฯ

3) ศิริราชมูลนิธิ

4) มูลนิธิจุฬาภรณ์

5) มูลนิธิโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าฯ

6) มูลนิธิโรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อนฯ

7) มูลนิธิโรคมะเร็งโรงพยาบาลศิริราช

8) มูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถี

9) มูลนิธิสมเด็จพระปิ่นเกล้า

10) มูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ

หน่วยรับบริจาคใหม่ 3 แห่ง

11) มูลนิธิโรงพยาบาลสวนดอก คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

12) มูลนิธิสนับสนุนสถาบันประสาทวิทยา

13) มูลนิธิโรงพยาบาลเด็ก

 

การบริจาคเงิน ลดหย่อน 2 เท่านี้ เป็นการขยายเวลายกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่บริจาคเงินหรือทรัพย์สินให้แก่หน่วยรับบริจาคด้านสาธารณสุข รวม 13 แห่ง (จากหน่วยรับบริจาคเดิม 10 แห่ง) เป็นระยะเวลา 2 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567 โดยบริจาคผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ของกรมสรรพากร

 

การยกเว้นภาษีเงินได้ให้กับการบริจาค แบ่งเป็น

1) บุคคลธรรมดา ให้ยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้พึงประเมินหลังจากหักค่าใช้จ่ายและหักลดหย่อนเป็นจำนวน 2 เท่าของจำนวนเงินที่บริจาค

2) บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลให้ยกเว้นภาษีเงินได้ สำหรับเงินได้เป็นจำนวน 2 เท่า ของรายจ่ายที่บริจาคไม่ว่าจะได้จ่ายเป็นเงินหรือทรัพย์สิน

บุคคลธรรมดาหรือบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ให้ยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ สำหรับเงินได้ที่ได้รับจากการโอนทรัพย์สิน หรือการขายสินค้า หรือสำหรับการกระทำตราสารอันเนื่องมาจากการบริจาคให้แก่หน่วยรับบริจาคทั้ง 13 แห่ง

แนะนำผู้ที่ต้องการนำการบริจาคไปลดหย่อนภาษีของปี ภาษี 2566 ควรบริจาคภายในปี 2566 แล้วนำไปยื่นต้นปี 2567

 

บริษัทของเราโดยผู้ก่อตั้งกลุ่มเออาร์ เล็งเห็นความสำคัญของการแบ่งปันของการเป็นผู้ให้ตลอดระยะหลายปีที่ผ่านมา โดยได้เป็นส่วนหนึ่งในมูลนิธิสร้างเสริมไทย ที่เป็นหนึ่งในองค์กรสาธารณกุศล ลำดับที่ 686 ตามประกาศกระทรวงการคลัง ที่ผู้บริจาคสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้ประจำปี เรายังเดินหน้าแบ่งปันและจัดกิจกรรมส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนไทย ได้มีการพัฒนาทางการศึกษาเรียนรู้ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์กับตัวเด็กและเยาวชนทุกคน